เรียนภาษาไทยด้วยตัวเองและเรียนกับครูผู้เชี่ยวชาญ ต่างกันอย่างไร

การเรียนภาษาไทยกลายเป็นทางเลือกสำคัญสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องใช้ชีวิต ทำงาน หรือทำธุรกิจในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการเรียนภาษาไทยสำหรับชาวต่างชาติ การฝึกพูดภาษาไทยสำหรับชาวต่างชาติหรือการเรียนเพื่ออ่าน-เขียนอย่างถูกต้อง ผู้เรียนจำนวนมากมองหาวิธีที่เหมาะสมกับตนเอง การเรียนภาษาไทย มีด้วยกัน 2 แบบคือ การเรียนด้วยตัวเองและการเรียนกับครูผู้เชี่ยวชาญ มาดูกันว่า ข้อดีและข้อจำกัดของการเรียนทั้ง 2 แบบนี้ เป็นอย่างไร

การเรียนภาษาไทยด้วยตัวเอง อิสระที่คุณกำหนดได้

การเรียนด้วยตัวเองหรือ Self-learning เป็นทางเลือกยอดนิยมในหมู่ผู้ที่อยากเริ่มเรียนภาษาไทย อยากลองพื้นฐานด้วยตัวเอง หรือมีตารางเวลาที่ไม่แน่นอน 

ข้อดีของการเรียนภาษาไทยด้วยตัวเอง

  • ยืดหยุ่นสูง
    สามารถกำหนดเวลาเรียนได้เอง เหมาะสำหรับผู้ที่มีตารางงานไม่แน่นอนหรืออยู่ต่างประเทศ
  • ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นต่ำกว่า
    ใช้เพียงตำรา วิดีโอ หรือแอปพลิเคชัน ทำให้ประหยัดกว่าโรงเรียนสอนภาษาไทย
  • เหมาะสำหรับการปูพื้นฐานเบื้องต้น
    เช่น การเรียนคำศัพท์พื้นฐาน การเรียนอ่านภาษาไทย และการเริ่มเข้าใจเสียงวรรณยุกต์
  • เลือกความเร็วในการเรียนได้
    ผู้เรียนสามารถทบทวนซ้ำในหัวข้อที่ยากได้ไม่จำกัด

ข้อจำกัดที่ต้องพิจารณา

  • ความถูกต้องด้านการออกเสียงอาจต่ำกว่า
    ภาษาไทยมีเสียงวรรณยุกต์ 5 เสียง การออกเสียงผิดอาจทำให้สื่อสารคลาดเคลื่อน
  • ขาดโครงสร้างการเรียนที่เป็นระบบ
    ทำให้เกิดการเรียนแบบกระจัดกระจาย ไม่เข้าใจไวยากรณ์อย่างแท้จริง
  • ไม่มีโอกาสฝึกสนทนากับเจ้าของภาษา
    ผู้เรียนหลายคนพูดภาษาไทยได้น้อย แม้เรียนด้วยตัวเองมานาน บางคำอาจไม่ได้เข้าใจความหมายที่แท้จริงเท่าเจ้าของภาษา
  • ต้องพึ่งแรงจูงใจของตนเองล้วนๆ
    ผู้เรียนจำนวนมากหยุดเรียนกลางคันหรือเรียนไม่ต่อเนื่อง ทำให้ขาดความสม่ำเสมอ

การเรียนภาษาไทยกับครูผู้เชี่ยวชาญ ทางลัดสู่ความสำเร็จ

สำหรับผู้ที่จริงจังกับการพัฒนา การเรียนภาษาไทยสำหรับชาวต่างชาติกับครูผู้มีประสบการณ์ เช่น โรงเรียนสอนภาษาไทยเฉพาะทาง หรือครูผู้สอนแบบตัวต่อตัว เป็นวิธีที่ช่วยให้พัฒนาได้เร็วกว่าและถูกต้องกว่าอย่างชัดเจน

ข้อดีของการเรียนภาษาไทยกับครู

  • แก้ไขจุดอ่อนเฉพาะบุคคลได้ตรงจุด
    ครูสามารถสังเกตปัญหาที่เกิดขึ้นได้ เช่น การออกเสียงผิด ไวยากรณ์สับสน หรืออ่านไทยไม่คล่อง และแก้ไขจุดเหล่านั้นได้อย่างเป็นระบบ
  • การออกเสียงถูกต้องตั้งแต่วันแรก
    ช่วยให้ชาวต่างชาติเรียนภาษาไทยได้เร็วขึ้น ลดโอกาสติดสำเนียงผิดๆ ไปใช้
  • ได้ฝึกการสนทนา
    เหมาะกับคนต้องใช้ภาษาไทยในงาน บริการลูกค้าหรือการใช้ชีวิตประจำวัน
  • มีแรงสนับสนุนกและการติดตามผล
    ช่วยให้เรียนต่อเนื่องและไม่ล้มเลิกกลางทาง
  • หลักสูตรชัดเจน มีเป้าหมายเป็นขั้นตอน
    โรงเรียนสอนภาษาไทยมักมีโครงสร้างหลักสูตรที่ครอบคลุมพื้นฐานจนถึงระดับธุรกิจ

ข้อจำกัดที่ต้องพิจารณา

  • มีค่าใช้จ่ายมากกว่าเรียนเอง
    โดยเฉพาะคอร์สที่เป็นไพรเวท เรียนตัวต่อตัวกับครูเจ้าของภาษา
  • ความยืดหยุ่นของเวลาน้อยกว่า
    ต้องมีตารางและแผนในการเรียนอย่างชัดเจน ทำให้ความยืดหยุ่นในการเรียนน้อยลง

ตารางเปรียบเทียบชัดๆ เรียนด้วยตัวเอง vs เรียนกับครู

ปัจจัยเรียนด้วยตัวเองเรียนกับครูผู้เชี่ยวชาญ
แบบการเรียน เรียนผ่านหนังสือ วิดีโอ แอป หรือคอร์สเรียนภาษาไทยออนไลน์แบบอิสระ เรียนแบบตัวต่อตัวหรือกลุ่มเล็ก พร้อมคำแนะนำจากครูผู้สอน
ค่าใช้จ่าย ต่ำ-ปานกลาง ปานกลาง-สูง
ความยืดหยุ่น สูงมาก (กำหนดเวลาเองได้) ปานกลาง (ต้องนัดหมายเวลาเรียน)
ความถูกต้อง (การออกเสียง/ไวยากรณ์) ต่ำ-ปานกลาง สูงมาก (แก้ไขได้ทันที)
แรงจูงใจ ต้องสร้างวินัยเอง สูง (มีครูช่วยติดตามผล)
การฝึกสนทนา จำกัด ดีเยี่ยม (ได้ฝึกจริงทุกคาบเรียน)

เลือกวิธีที่เหมาะกับเป้าหมายของคุณ

การเรียนภาษาไทย ไม่ได้มีวิธีเดียวที่ดีที่สุด แค่ว่าวิธีไหน เหมาะที่สุดสำหรับคุณเท่านั้น หากต้องการความถูกต้อง เร็ว และเรียนแบบเป้าหมายเฉพาะ การเรียนกับผู้เชี่ยวชาญคือทางลัดที่ช่วยให้ประหยัดเวลาและได้ผลลัพธ์จริง 

หากคุณคิดว่า การมีครูผู้เชี่ยวชาญคอยชี้แนะคือวิธีที่ใช่สำหรับคุณ อยากได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลากับการลองผิดลองถูก การเรียนที่ C-E-N คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด ทีมครูของเรามีประสบการณ์สอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติมายาวนาน พร้อมช่วยวิเคราห์เป้าหมายและออกแบบหลักสูตรที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาและเริ่มต้นการเรียนได้อย่างมั่นใจทันที